Powered By Blogger

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

Review Sennheiser HD650


Sennheiser HD650


http://www.qfonic.com/images/products/sen-hd650/image01.jpg

สำหรับตัวนี้ ผมยังไม่ได้ซื้อมาเป็นเจ้าของครับ แต่ได้เคยลองฟังหลายทีแล้ว ที่ไม่ review ซะทีเพราะรู้สึกยังไม่มั่นใจครับ เนื่องจากแต่ละครั้งที่ได้ฟังใช้เวลาสั้นมากๆ สั้นจนเกินไป แถมในตอนนั้นผมยังไม่มีหูฟังระดับใกล้ๆกันเอาไว้เทียบด้วยครับ
พอดีครั้งนี้บังเอิญมี mini meeting ก็มาฟังแอมป์กันนั่นแหละครับ แต่ละคนก็อยากรู้ว่าแอมป์แต่ละตัวที่ผม review ไป เป็นยังไง ผมก็เลยจัดให้ครับ... จริงนัดฟังกันแค่ 2 คน แต่มีมาเพิ่มอีกคน เลยกลายเป็น 3 คน 3 หนุ่ม 3 มุมครับ พรั่งพร้อมด้วยยุทธโธปกรณ์พร้อมรบครบครัน จนมีคนเดินมาถามว่า

" พี่ๆ... รับโหลดเพลงใช่ป่าว.... "

เล่นเอางงไปทั้งวงเลยครับ พอบอกไปว่าไม่ใช่ พี่แกยังอุตส่าห์หันมาถามอีกว่า "แล้วมานั่งทำไรกัน"... แล้วจะให้ตอบยังไงเนี่ย... แบบนี้ก็มีด้วย

เข้าเรื่องครับ พอดีคนในวง metting จิ๋วนี้พกเอา HD650 มาด้วย ผมก็เลยบรรเลงเลยครับ นานๆจะหลุดมาให้ฟังซักที ใจจริงก็อยากหิ้วกลับบ้าน แต่เกรงใจแก กลัวแกไม่มีอะไรจะฟัง ครั้นจะเอา K701 เป็นตัวประกันใจมันก็หดหู่ เพราะเหมือนเอาคนรักไปค้ำประกันแลกทองคำ ก็เลยตัดสินใจฟังกันให้รู้เรื่องไปเลยตรงนั้น... ง่ายดี

สัมผัสแรกที่ได้รับรู้จากการหยิบ 650 คือ... เสียวครับ เสียวหล่น เพราะของมันแพง ดูเหมือนจะหนีบแต่ใส่สบายมากเลยครับ ใส่แล้วไม่รู้สึกอึดอัดหรือโดนหนีบแต่อย่างใด คุณภาพงานก็สุดยอดเลยครับ เนี้ยบแบบไม่ต้องพูดถึง ที่สำคัญ ผมชอบสายมันมากเลยครับ ถอดออกมาโมง่ายดี มิหน้า คนถึงนิยมโมสายมันเยอะ ถอดง่ายขนาดนี้นี่เอง 5555 ความรู้สึกช่วงที่ใส่นี่... มันโล่งครับ ด้วยความเป็นหูฟังแบบ Open Dynamic เวลาใส่ก็เลยให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่ ใครพูดอะไรมาเป็นได้ยินโม้ด... มัน open กว่า K701 อีกครับ ตัว K701 เองเวลาใส่ยังรู้สึกได้ยินเสียงเบาลงบ้าง แต่ HD650 นี่ ให้มาหมดทั้งใจ ทำให้เวลาทดสอบต้องเดินตะเวนหาที่เงียบๆเพื่อนั่งฟังครับ ไม่งั้นฟังไม่รู้เรื่องเลย.... แต่ก็ไม่วายครับ ไม่วายได้พานพบพี่เสก พี่บอยด์ สลับๆกันไประหว่างทดสอบฟังครับ แต่ ผมยินดีตัดสวิทซ์ชับ... เพื่อให้ตัวเองได้ยินแต่เสียงจาก Hd650 เท่านั้น

สิ่งที่จะได้จาก HD650 แต่ไม่ได้จาก K701 เลยคือ เบสที่เป็น deep เบสครับ ( เหมือนจะพิมพ์เรื่องนี้ไปทีแล้ว ) เบสที่ออกมาจาก Hd650 มันให้ความต่อเนื่องของเบสสูงมากครับ การที่เรียกมันว่า deepเบส เพราะจังหวะการไล่ของเบสนั้น เวลามีการเล่นเบสมันจะมีลูกส่งต่อเนื่องไปยังโน้ตเบสอีกตัวครับ... ถ้าให้นึกภาพออกง่ายๆคือ เวลามีเบสโซโล่เมื่อดีดโน้ตแรก พอเสียงเบสค่อยๆจาง ค่อยๆจาง มันจะไปทันเกาะเบสโน้ตตัวที่สองครับ ทำให้มันไล่สเกลเป็นเมโลดี้เบสต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ซึ่ง ถ้าเป็น K701 จังหวะการสั่นของเบสมันจะไม่ดันต่อเนื่องไปถึงโน้ตตัวที่สองครับ แค่โน้ตตัวแรกมันก็แทบจางหายไปหมดแล้ว ส่วนตัวผมชอบเบสทั้งคู่ครับ ถึงแม้ K701 จะให้เบสที่ไล่เป็นเมโลดี้ไม่ได้ แต่ก็ให้เบสที่นุ่มหูผมมากๆ... ตรงนี้ก็แล้วแต่คนชอบครับ 55555

มิติเสียงกลางของตัวนี้ให้มิติดีมากๆเลยครับ แยกกันเห็นๆเป็น 3 มิติเลยครับ เล่นเอามิติทะลุหลังหัวไปเลย ทีเด็ดของตัวนี้คงอยู่ที่มิติเสียงเบสครับ บางเพลงจะรู้สึกเห็นๆว่ามันสร้างออกมาชัดๆอยู่หลังหัวครับ ถ้านึกภาพตามจำเป็นเป็นเบสอยู่ตรงข้างหลัง ตรงกลาง เห็นภาพเป็นลูกเบสกระเพื่อมๆ เลยครับ ตรงนี้ที่ K701 ไม่มีครับ เพราะเบสของ 701 จะคงที่อยู่ตำแหน่งเดิมครับ แต่ก็แลกมาด้วยรายละเอียด detail ของเสียงกลาง และ soundstage ที่กว้างสุดแสนจะกว้าง แทนครับ ซึ่ง Hd650 ก็ให้ได้ไม่เท่าครับ เพราะยังคงเอกลักษณ์ของ Senheiser ไว้ครับ แกจะเน้นมิติเสียงกลางครับ แต่ไม่ได้ให้ soundstage กว้างๆ ตรงนี้ก็แล้วแต่คนชอบนะครับ

เสียงกลางของ 650 ไปจนถึง Vocal จะออกอิ่มๆ ครับ แต่ K701 เสียงกลางจะออกพริ้วๆครับ เรียกว่าคนละอารมณ์กันเลย มวลกลางของ HD650 จะหนากว่า อวบกว่า ซึ่งก็จะรวมไปถึงมวลของเบสด้วยครับ จุดเด่นที่น่าสนใจอีกอย่างของ HD650 คือเสียงกลองที่ลงกระแทกได้รุนแรงมาก ถ้าใครชอบสไตล์กลองที่โหดๆหน่อย น่าจะชอบมากๆ แต่ถึงแม้่จะตีได้แรงแต่ก็ยังรับรู้ถึงรายละเอียดของกลองได้เป็นอย่างดี การไล่ step ของกลองแต่ละลูกก็ให้โทนเสียงที่แตกต่างกันได้อย่างสมบูรณ์และน่าฟัง พูดกันตามตรงคือ กลองของ 650 จะ color เอามากๆ มากเกินความจริง โดยเฉพาะเสียงสแนร์ ที่มันหนักแน่นเกินกว่าจะเป็นสแนร์ธรรมได้ แต่ส่วนอื่นๆก็ถือว่าโอเคครับ

ความใสของตัวนี้อาจจะแพ้ K701 ครับ แต่ด้วยลักษณะของ tone บรรยากาศที่ออกทะมึนเล็กๆ ทั้งๆที่เนื้อเสียงก็ใสคมทีเดียวครับ แต่ detail และ ประกายเสียงยังสู้ K701 ไม่ได้ครับ ผมรู้สึกว่ารายละเอียดของเสียงกลาง K701 จะชัดและพริ้วกว่าครับ ในขณะที่ Hd650 จะออกอิ่มๆ นุ่มๆ เวลาเสียงเครื่องเป่าค่อยๆผ่อนออกมา มันจะละมุนละไมกว่า K701 เยอะครับ เรียกว่า ฟังแจ๊สเพลงเดียวกัน แต่ให้อารมณ์เพลงที่แตกต่างกันเลยครับ เสียงนักร้องของทาง Hd650 จะอิ่ม.. ฉ่ำ... ส่วนของ K701 จะใส... เป็นมิติ ลอยๆ พริ้วๆ...

สิ่งที่ Hd650 จะด้อยกว่า K701 ก็มี 2 เรื่องเดียวครับ คือ soundstage กับอารมณ์ความเป็น Dark ตามสไตล์ senheiser เพราะนอกนั้นก็จะเด่นไปอีกด้านนึงครับ จริงๆถ้าทำ soundstage ได้กว้างเท่า K701 ผมก็ไม่รอช้าที่จะซื้อ HD650 เช่นกันครับ แต่พอดี K701 ก็ให้เสียงในแบบที่ผมอยากได้ เพราะผมเดินมาทางนี้แล้วครับ เส้นทางของผู้ที่ครอบครอง EP880 , Super.Fi 5 Pro การได้ครอบครอง K701 เป็นสุดยอดของเจ้าแห่งทางสายนี้แล้วครับ หลุดจากนี้คงเป็น K1000 แล้วครับ 5555

SPEC
Nominal impedance : 300 Ohm
Contact pressure : ca. 2,5 N
Weight w/o cable : ca. 260g
Jack plug : 6,3/3,5 mm stereo
Transducer principle (Headphones) : open, dynamic
Ear coupling : circumaural
Cable length : 3 m
Frequency response (headphones) : 10.....39500 Hz
Sound pressure level (SPL) : 103 dB (1 Vrms)
THD, total harmonic distortion : 0,05 %

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น